วันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

สถาที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย

  สถาที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยเเละอาหารการกิน

     

 ถือว่าเป็นม้ามืดเหมือนกันครับ จากที่ใครต่อใครคิดว่าน่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติเสียมากกว่า ที่มาแรง เอาเข้าจริงแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมโบราณสถาน และประวัติศาสตร์ กลับแซงโค้งเข้าป้าย โดยเฉพาะอันดับ 1 ทิ้งคู่แข่งประเภทอื่นชนิดหายห่วงด้วยคะแนนสูงสุด

อันดับ 1 วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือ "วัดพระแก้ว" กรุงเทพมหานคร

พระอารามหลวงในบริเวณพระบรมมหาราชวังแห่งนี้ เป็นหนึ่งในบรรดาแหล่งท่องเที่ยวแห่งแรกๆ ของประเทศ ที่เปิดเผยออกสู่สายตาของชาวโลกเมื่อแรกเริ่มมีการส่งเสริมการท่องเที่ยว ขึ้นในประเทศไทยเมื่อ 50 ปีก่อน นอกจากความสำคัญในฐานะเป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร "พระแก้วมรกต" สถาปัตยกรรมหลายยุคหลายสมัยที่สร้างเสริมสืบต่อกันมา และการตกแต่งประดับประดาอันอลังการก็เป็นเอกลักษณ์ที่ดึงดูดใจ โดยเฉพาะจิตรกรรมฝาผนังรอบพระระเบียงคด เรื่องรามเกียรติ์อันวิจิตรตระการตาและมีความยาวที่สุดในโลก

อันดับ 2 วัดพระธาตุดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่

 ปูชนียสถานคู่บ้านคู่เมืองบนยอดดอยสูง สร้างขึ้นเพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุตั้งแต่ พ.ศ. 1916 ในสมัยพญากือนาแห่งอาณาจักรล้านนา ความสง่างามขององค์พระธาตุเจดีย์เหลี่ยมประดับด้วยแผ่นทองอร่ามตา รวมทั้งการตกแต่งประดับประดาด้วยศิลปกรรมล้านนาอันงดงาม ท่ามกลางม่านหมอกของผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์เหนือเทือกดอยสูง รวมทั้งสภาพอากาศอันเย็นสบาย ผสมผสานกันเป็นบรรยากาศอันขรึมขลังที่แตกต่างจากสถานที่อื่น ๆ อย่างเป็นเอกลักษณ์ สร้างความประทับใจกับผู้มาเยือนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง จึงไม่น่าแปลกใจที่จะได้รับคะแนนนิยมอย่างล้นหลามตามอันดับ 1 มาติด ๆ

อันดับ 3 อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

    อดีตราชธานีที่มีอายุยาวนานที่สุดของสยามประเทศ คือ 417 ปี ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจากองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และ วัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2534 ร่องรอยสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่และงดงามที่หลงเหลือกระจัดกระจายอยู่ สะท้อนให้เห็นถึงความรุ่งเรืองสืบเนื่องมาหลายยุคหลายสมัย 

          แม้ในระยะหลังจะมีปัญหาความเสื่อมโทรมและการรุกล้ำพื้นที่ จนมีข่าวลือหนาหูว่าจะถูกเพิกถอนจากบัญชีมรดกโลก แต่ท้ายที่สุดก็ได้รับการปรับปรุงแก้ไขสิ่งที่เป็นปัญหาจนคลี่คลายไปได้ด้วยดี ด้วยระยะทางที่อยู่ใกล้กับกรุงเทพฯ ไม่ไกลเกินนักท่องเที่ยวทั่ว ๆ ไปจะสัมผัสได้ ทำให้ได้รับคะแนนนิยมมาเป็นอันดับ 3

อันดับ 4 วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร

   องค์พระปรางค์สูงตระหง่านเสียดฟ้าริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งนี้ได้รับการยกย่อง ว่าเป็นสุดยอดด้านงานสถาปัตยกรรมชั้นเยี่ยมแห่งหนึ่งของยุครัตนโกสินทร์ ด้วยความสูงทั้งสิ้น 33 วาเศษ จึงถือว่าเป็นพระปรางค์ที่สูงใหญ่ที่สุดในโลกด้วย สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 

          รอบองค์ปรางค์วิจิตรอลังการด้วยการตกแต่งประดับประดาด้วยถ้วยชามกระเบื้องเคลือบสีต่าง ๆ เป็นเอกลักษณ์อันเป็นที่รู้จักดีอย่างหนึ่งของประเทศไทยในสายตาชาวต่างประเทศ จึงถูกนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของตราสัญลักษณ์ขององค์การส่งเสริมการท่องเที่ยว แห่งประเทศไทย (อ.ส.ท.) ซึ่งกลายมาเป็นการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในทุกวันนี้

อันดับ 5 อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย


          เมืองโบราณที่มีร่องรอยของการตั้งถิ่นฐานตั้งแต่ยุคชุมชนก่อนประวัติศาสตร์ พัฒนาการขึ้นมาตามลำดับ จนกระทั่งเป็นแว่นแคว้นที่มีความเจริญรุ่งเรืองทางศิลปวัฒนธรรมระดับสูง ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ. 2534 โดดเด่นด้วยโบราณสถานขนาดใหญ่จำนวนมากมายที่สร้างด้วยศิลาแลง ทั้งในส่วนของเมืองเชลียงอันเป็นเมืองในยุคเริ่มแรก และในส่วนของเมืองศรีสัชนาลัยซึ่งเป็นส่วนต่อขยายที่เจริญขึ้น 

          ในยุคต่อมาโบราณสถานเหล่านี้ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติเทือกทิวเขาและแมกไม้อันร่มรื่น ปราศจากการรบกวนจากความเจริญสมัยใหม่ จัดว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่มีบรรยากาศงดงามสมบูรณ์มากที่สุดของประเทศไทย

อันดับ 6 อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จังหวัดสุโขทัย


          เมืองโบราณที่มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับเมืองศรีสัชนาลัยอย่างใกล้ชิด ในด้านวัติความเป็นมาขึ้นทะเบียนมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ. 2534 ในนามเมืองประวัติศาสตร์สุโขทัยและเมืองบริวารร่วมกับเมืองศรีสัชนาลัยและ เมืองกำแพงเพชร เป็นแหล่งศิลปวัฒนธรรมอันงดงามอ่อนช้อยมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นแหล่งกำเนิดศิลปวัฒนธรรมสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นตัวอักษรไทย การวางผังเมืองอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะในด้านศิลปกรรม พุทธประติมากรรมของสุโขทัยได้รับการยอมรับกันว่าเป็นสุดยอดทางความงามของศิลปะไทย เมืองเก่าสุโขทัยมีโบราณสถานขนาดใหญ่ตระการตาหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะพระพุทธรูปขนาดมหึมา แต่ในเรื่องของบรรยากาศความเป็นธรรมชาติอาจเป็นรองศรีสัชนาลัยอยู่เล็กน้อย เนื่องจากอยู่ใกล้กับเมือง

อันดับ 7 พระธาตุพนม จังหวัดนครพนม


          ตามตำนานกล่าวว่าองค์พระธาตุเดิมสร้างมานานไม่น้อยกว่า 2,300 ปี โดยพระมหากัสสปะพร้อมพระอรหันต์ 500 องค์ ได้นำพระอุรังคธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาบรรจุไว้ พระธาตุพนมเคยล้มทลายลงทั้งองค์ใน พ.ศ. 2518 เนื่องจากความเก่าแก่และถูกพายุฝนกระหน่ำต่อเนื่องกันหลายวัน ชาวไทยทั้งประเทศได้ร่วมกันบริจาคทุนทรัพย์บูรณปฏิสังขรณ์องค์พระธาตุขึ้นใหม่ตามแบบเดิม แล้วเสร็จใน พ.ศ. 2522 

          ในวันนี้พระธาตุพนมจึงยังคงตระหง่านงามอยู่เป็นที่เคารพสักการะของพุทธ ศาสนิกชนทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือรวมไปถึงทางฝั่งลาวด้วย ในวันเพ็ญเดือน 3 ของทุกปี จะมีพุทธศาสนิกชนหลั่งไหลมาร่วมงานสมโภชพระธาตุพรมจากทั่วทุกสารทิศ

อันดับ 8 พระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐม


          ปูชนียสถานคู่บ้านคู่เมืองนครปฐม พระเจดีย์องค์เดิมมีลักษณะทรงโอคว่ำหรือทรงมะนาวผ่าซีก แบบเดียวกับพระสถูปสาญจี พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงมีพระราชวินิจฉัยว่าเจดีย์ใหญ่องค์นี้อาจเป็นเจดีย์ที่สร้างขึ้นแต่ครั้งพระสมณทูตของพระเจ้าอโศกมหาราช เดินทางมาเผยแผ่พระพุทธศาสนายังสุวรรณภูมิเป็นครั้งแรก จึงโปรดเกล้าฯ ให้บูรณปฏิสังขรณ์ขึ้นและพระราชทานนามใหม่ว่า "พระปฐมเจดีย์" อันมีความหมายว่าเจดีย์แห่งแรก 

          ปัจจุบันยังคงมีพุทธศาสนิกชนเดินทางมาสักการะเป็นจำนวนมากทุกปี ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระปฐมเจดีย์ ยังเป็นแหล่งรวบรวมศิลปกรรมชิ้นเยี่ยมสมัยทวารวดีเอาไว้มากที่สุดด้วย

อันดับ 9 อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย จังหวัดนครราชสีมา


          เมืองโบราณในแบบแผนของสถาปัตยกรรมขอม ชื่อ "พิมาย" มาจากคำว่า "วิมาย" หรือ "วิมายปุระ" ที่ปรากฏในจารึกภาษาขอมบนแผ่นหินตรงกรอบประตูระเบียงคดด้านหน้าของปราสาท  จุดเด่นของเมืองคือปราสาทหินพิมาย ปราสาทหินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จากหลักฐานศิลาจารึกและรูปแบบทางศิลปะสร้างบ่งบอกว่า สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 ราวพุทธศตวรรษที่ 16 ในฐานะเทวสถานของศาสนาพราหมณ์รูปแบบของศิลปะเป็นแบบบาปวนผสมผสานกับศิลปะแบบนครวัด ซึ่งปราสาทนี้ได้ถูกดัดแปลงมาเป็นสถานที่ทางศาสนาพุทธในสมัยพระเจ้าชัยวรมัน ที่ 7 พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย ยังเป็นแหล่งรวบรวมโบราณวัตถุศิลปะขอมเอาไว้จำนวนมากและน่าสนใจที่สุดของ ประเทศไทยอีกด้วย

อันดับ 10 อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี จังหวัดเพชรบุรี


          พระนครคีรีหรือเขาวัง เป็นพระราชวังแห่งเดียวของประเทศไทยที่ตั้งอยู่บนยอดเขา ซึ่งแต่เดิมมีชื่อเรียกว่า "เขาสมณะ" เนื่องจากมีวัดสมณะอารามเก่าตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาอยู่บนไหล่เขาด้าน ตะวันออก พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ครั้งยังผนวชอยู่เคยเด็จมาปฏิบัติภาวนาบนยอดเขา หลังเสด็จขึ้นครองราชย์จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชวังขึ้น โดยยอดเขาทางทิศตะวันตกเป็นที่ประทับและเรือนบริวารยอดกลางเป็นที่ตั้งของ พระธาตุจอมเพชร บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และบนยอดเขาด้านตะวันออกเป็นที่ตั้งของวัดพระแก้ว อารามประจำพระราชวังพระนครคีรี พระราชทานนามว่า "พระราชวังพระนครคีรี" โดดเด่นด้วยความงดงามของสัดส่วนที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างสถาปัตยกรรมกับสภาพภูมิประเทศ

แหล่งท่องเที่ยวประเภทป่าเขา น้ำตก

อันดับ 1 อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่


          สุดยอดเหนือใครในสยามประเทศด้านความสูงด้วยดอยอินทนนท์ ยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย 2,565 เมตร จากระดับทะเลปานกลางท่ามกลางเทือกเขาสลับซับซ้อน อากาศหนาวเย็นตลอดปี แวดล้อมด้วยสภาพป่าแบบดึกดำบรรพ์ อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพรรณไม้หลากหลายชนิด และนกสวยงามนานาชนิด ด้วยเป็นป่าต้นน้ำ จึงมีน้ำตกสวยงามขนาดใหญ่หลายแห่ง เช่น น้ำตกแม่ยะ น้ำตกสิริภูมิ น้ำตกแม่กลาง ฯลฯ ทั้งยังเป็นที่ตั้งของพระมหาธาตุนภเมทนีดลและพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ ซึ่งกองทัพอากาศสร้างถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบอีกด้วย

อันดับ 2 อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จังหวัดเลย


          อุทยานแห่งชาติลำดับที่ 2 ของประเทศไทยต่อจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เหนือที่ราบกว้างใหญ่บนยอดภูสูง 1,200 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง งามตาด้วยทิวสนเรียงราย นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ชื่นชอบภูกระดึงเพราะความหลากหลายในด้านการท่องเที่ยว เนื่องจากมีหน้ามาจุดชมทิวทัศน์มากมายหลายจุด ที่โด่งดังเป็นที่รู้จักคือจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่นและจุดชมพระ อาทิตย์ตกที่ผาหล่มสัก ทั้งยังมีน้ำตกขนาดกลางและขนาดเล็กที่สวยงาม เช่น น้ำตกถ้ำใหญ่ น้ำตกวังกวาง น้ำตกธารสวรรค์ ฯลฯ อีกทั้งสภาพป่าที่มีทั้งป่าสนเขา ป่าดินเขา ป่าเต็งรัง และป่าเบญจพรรณ ทำให้มีพรรณไม้แปลก ๆ สวยงาม ในยามดอกไม้ ป่าสะพรั่งบานเปรียบเสมือนกับอุทยานบนสรวงสวรรค์

อันดับ 3 อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา นครนายก ปราจีนบุรี และสระบุรี


          อุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไทย ตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2505 ได้เป็นมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ. 2548 โดยขึ้นทะเบียนร่วมกับป่า 5 ผืนใหญ่ คือ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อุทยานแห่งชาติปางสีดา อุทยานแห่งชาติตาพระยา อุทยานแห่งชาติทับลาน และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ ถือว่าเป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติแห่งที่ 2 ของไทย ต่อจากผืนป่าทุ่งใหญ่นเรศวร-ห้วยขาแข้ง 

          เขาใหญ่เป็นแหล่งที่สามารถพบเห็นสัตว์ป่าน้อยใหญ่นานาชนิด ทั้งยังมีน้ำตกใหญ่ที่สวยงาม เช่น น้ำตกเหวนรก น้ำตกเหวสุวัต น้ำตกผากล้วยไม้ และน้ำตกอื่น ๆ อีกมากมายกว่า 20 แห่ง รวมทั้งยังมีเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติอีก 13 เส้นทาง จึงเป็นขวัญใจของบรรดานักท่องเที่ยวผู้ชื่นชอบสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิดมาตลอดทุกยุคทุกสมัย

อันดับ 4 สถานีเกษตรหลวงดอยอ่างขาง จังหวัดเชียงใหม่



          สถานีวิจัยแหงแรกของโครงการหลวง จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2512 ตามแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงต้องการเปลี่ยนพื้นที่จากไร่ฝิ่นของชาวไทยภูเขามาเป็นแปลงเกษตรเมือง หนาวที่สามารถสร้างรายได้ วันนี้ดอยอ่างขางได้เปลี่ยนสภาพจากภูเขาซึ่งถูกตัดไม้ทำลายป่ามาเป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์ สภาพอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี มีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจให้เที่ยวชมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นไม้ดอกเมืองหนาวกว่า 20 ชนิด พันธุ์ไม้ผลกว่า 12 ชนิด และแปลงผักเมืองหนาวอีกกว่า 60 ชนิด รวมทั้งหมู่บ้านชาวไทยภูเขาหลายเผ่า คือ จีนฮ่อ ไทยใหญ่ มูเซอดำ และปะหล่อง ทิวทัศน์ชายแดนไทย-พม่า อีกทั้งยังเป็นแหล่งดูนกสำคัญที่มีนกน่าสนใจหลายชนิด

อันดับ 5 อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง จังหวัดเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน


          เป็นผืนป่าต้นน้ำสำธารที่โดดเด่นด้วยป่าและธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และทิวเทือกเขาสูงชันสลับซับซ้อน มีจุดชมทิวทัศน์ที่ชื่อเสียงโด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย คือ "จุดชมวิวห้วยน้ำดัง" อันเป็นสถานที่ซึ่งสามารถชมทะเลหมอกยามเช้าได้อย่างชัดเจนงดงาม ท่ามกลางแสงสีทองของอรุณรุ่ง แต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวนับพันมาพักแรมเพื่อรอชม นอกจากนี้ยังมียอดดอยที่มีธรรมชาติงดงามอีกหลายแห่ง เช่น ดอยช้าง ดอยสามหมื่น รวมทั้งโป่งเดือดซึ่งเป็นน้ำพุร้อนธรรมชาติ ทางอุทยานได้จัดสร้างบ้านพักพร้อมบ่อสำหรับอาบน้ำแร่แช่น้ำร้อนครบวงจรพร้อมบริการ

อันดับ 6 อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย จังหวัดเชียงใหม่


          เหนือภูเขาสูงสลับซับซ้อนหลายลูก ได้แก่ ดอยสุเทพ ดอยบวกห้า และดอยปุย เป็นแหล่งกำเนิดของต้นน้ำลำธารลำห้วย เช่น ห้วยแก้ว ห้วยช่างเคี่ยน ห้วยแม่ปาน ที่ไหลลงสู่แม่น้ำปิง และน้ำตกงามอีกหลายแห่ง ได้แก่ น้ำตกมณฑาธาร น้ำตกแม่สา เป็นน้ำตกที่สวยงามมาก น้ำตกตาดหมอก-วังฮาง น้ำตกตาดหมอกฟ้า น้ำตกมหิดล น้ำตกศรีสังวาลย์ น้ำตกผาลาด และน้ำตกห้วยแก้ว 

          ยังมีหน้าผาอันเป็นจุดชมทิวทัศน์หลายแห่ง โดยเฉพาะยอดดอยปุยซึ่งเป็นป่าสนเขา มองเห็นทัศนียภาพได้โดยรอบ ทั้งยังสามารถเยี่ยมเยือนหมู่บ้านชาวไทยภูเขาเผ่าต่าง ๆ เช่น ม้ง เย้า อาข่า ลีซอ มูเซอ ได้สะดวก เพราะมีทางเดินไปถึงทุกหมู่บ้าน บนเส้นทางขึ้นสู่อุทยานยังมีจุดแวะน่าสนใจอย่างอนุสาวรีย์ครูบาศริวิชัย และพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ ซึ่งประดับประดาด้วยดอกไม้นานาพรรณงดงามตระการตา

อันดับ 7 อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี


          อุทยานที่มีพื้นที่มากที่สุดของประเทศไทย คือ 2,915 ตารางกิโลเมตร เป็นป่าดิบขึ้น ภูเขาสลับซับซ้อนอยู่ในเทือกเขาตะนาวศรี สภาพภูมิประเทศอุดมสมบูรณ์ มีสัตว์ป่ามาก จึงมีชื่อเสียงในด้านการเป็นแหล่งดูนกที่มีนกให้ดูมากที่สุดแห่งหนึ่ง คือ 430 ชนิด จาก 900 กว่าชนิดที่มีในประเทศไทย ทั้งยังเป็นแหล่งดูผีเสื้อแห่งสำคัญ เพราะมีมากกว่า 150 ชนิด โดยมีจุดพักค้างแรมกางเต็นท์สำหรับผู้สนใจดูนกและผีเสื้อที่บ้านกร่างแคมป์ ในขณะเดียวกันยังมีจุดชมทะเลหมอกในตอนเช้าได้สวยงาม คือที่แคมป์พะเนินทุ่ง หรือ กม.30 อันเป็นจุดกางเต็นท์พักแรมของอุทยาน

อันดับ 8 อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จังหวัดเพชรบูรณ์


          แหล่งธรรมชาติที่มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์สอดแทรกอยู่ แหล่งท่องเที่ยวจึงแบ่งออกเป็นด้านประวัติศาสตร์ ได้แก่ สถานที่ต่าง ๆ ที่อดีตพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยเคยใช้เป็นฐานที่มั่น ซึ่งสถานที่เหล่านี้ได้รับการดูแลรักษาให้คงอยู่ในสภาพเดิม เช่น ผาชูธง โรงเรียนการเมือง การทหาร ในขณะที่ด้านธรรมชาติ ภูหินร่องกล้าก็ยังมีสภาพภูมิทัศน์สวยงามแปลกตา ผิดจากเทือกเขาโดยทั่วไป ได้แก่ ลานหินแตก ลานหิน ปุ่ม ซึ่งเกิดจากการโก่งตัวหรือเคลื่อนตัวของผิวโลก การสึกกร่อนตามธรรมชาติของหิน ปกคุลมไปด้วยมอส ไลเคน ตะไคร่ เฟิร์น และกล้วยไม้ ชนิดต่าง ๆ ทั้งยังอุดมด้วยน้ำตกสวยอีกหลายแห่ง เช่น น้ำตกหมันแดง น้ำตกร่มเกล้าภราดร น้ำตกศรีพัชรินทร์ น้ำตกแก่งลาด และน้ำตกตาดฟ้า

อันดับ 9 อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จังหวัดลำปาง


          ผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์และเป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร โดดเด่นในความเป็นอุทยานแห่งชาติที่เน้นการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ ด้วยมีแอ่งอาบน้ำอุ่นที่เกิดจากน้ำร้อนในบ่อน้ำพุร้อนมาบรรจบกับน้ำเย็นที่ มาจากน้ำตกแจ้ซ้อน ดำเนินงานตามแนวพระราชดำริในการใช้พลังงานน้ำธรรมชาติมาประยุกต์ อุทยานใช้ไฟฟ้าที่ผลิตเองจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกแจ้ซ้อน ที่บนเส้นทางพบสัตว์หายากอย่างนกเขนเทาหางแดง ปลาปุง รวมทั้งพรรณไม้ต่าง ๆ สามารถศึกษาระบบนิเวศและสภาพภูมิศาสตร์โดยรอบลานน้ำพุร้อน และเส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกแม่เปียก ศึกษาความรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศและการนำทรัพยากรจากป่ามาใช้ประโยชน์






ที่มา http://travel.kapook.com/view16714.html




การท่องเที่ยวประเทศไทย

สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตแห่งปี 2559 ในประเทศไทย

ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว ปี 2016 แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวปี2559



ในประเทศไทย เราเชื่อว่าปีที่ผ่านมาหลาย ๆ คนคงได้ออกไปเที่ยวพักผ่อนตามสถานที่ต่าง ๆ ไม่มากก็น้อย ก็แหม…พอถึงเทศกาลหยุดยาวทีไร สถานที่ท่องเที่ยวฮอต ๆ ทั่วประเทศจะเต็มไปด้วยผู้คนที่ไปสูดอากาศบริสุทธิ์ เสพวิวสวย ๆ ชมวิถีชีวิตของชาวบ้าน หรือชิมอาหารท้องถิ่นอร่อย ๆ ทั้งนั้น เพราะฉะนั้น วันนี้ TLC ท่องเที่ยวเลยมาประมวลผลให้ดูกันว่า สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตแห่งปี 2559 มีที่ไหนกันบ้าง แล้วเพื่อน ๆ ได้มีโอกาสไปเยือนสถานที่เหล่านั้นกันมาบ้างหรือยัง ? โดยเราจะเริ่มกันที่

1. เกาะตาชัย


เกาะตาชัย



เริ่มกันที่เกาะสุดฮอตซึ่งเพิ่งเปิดให้ท่องเที่ยวไม่นาน โดยได้รับการผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติสิมิลันในปี พ.ศ. 2541 แต่ความงามของท้องทะเล หาดทราย และบริสุทธิ์ ก็ทำให้ชื่อของ เกาะตาชัย ติดอันดับสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตได้ไม่ยากเลย ซึ่งเสน่ห์อันดึงดูดนักท่องเที่ยวอีกหนึ่ง คือ การเดินป่าเข้าไปดู ปูไก่ ปูน้ำจืดที่ชอบอาศัยอยู่ตามธารน้ำ มีลำตัวมีสีแดงสด ก้ามสีดำเหลือบน้ำเงิน และเวลาร้องจะมีเสียงคล้ายไก่ จึงเป็นที่มาของชื่อ (ควรจะปฏิบัติตามคำแนะนำของไกด์) สำหรับการเดินทางมาเที่ยวเกาะตาชัยนั้น จะเป็นแบบ One Day Trip เพราะนักท่องเที่ยวไม่สามารถพักบนเกาะได้

2. เกาะล้าน


เกาะล้าน

เรียกได้ว่าชื่อของ เกาะล้าน ไม่เคยจางหายไปไหนเมื่อมีการจัดอันดับความนิยม เพราะใกล้กรุงเทพฯ เดินทางสะดวกสบาย มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แถมหาดทรายและน้ำทะเลของเกาะก็สวยน่าเล่นที่สุด แหม…ใครจะคาดคิดว่าห่างจากพัทยามาเพียง 7 กิโลเมตร จะได้สัมผัสกับน้ำทะเลใสในโทนสีออกฟ้าเข้มราวทะเลฝั่งอันดามัน หาดทรายก็ขาวละเอียดนุ่มเท้าล่ะ (จริงไหม) นอกจากนี้ ที่พักเกาะล้าน ยังมีให้เลือกสรรมากมายตามความชอบอีกด้วย

3. เกาะช้าง


เกาะช้าง

หากกล่าวถึงทะเลแถบภาคตะวันออก เกาะช้าง นับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ ของนักเดินทางผู้รักทะเล ด้วยเพราะความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศทำให้เกาะช้างยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถเดินทางมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี อีกทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจหลายแห่ง เช่น หาดทรายขาว หาดแห่งนี้เนียนเรียบ เนื้อทรายละเอียดนุ่มเท้า รวมถึงยังเป็นศูนย์รวมของรีสอร์ทเก๋ ๆ ร้านอาหาร ผับฮิป ๆ มากมาย และถัดไปไม่ไปไกลก็เป็นที่ตั้งของหาดคลองพร้าว มีหาดทรายที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา และเหมาะอย่างยิ่งที่จะเล่นกิจกรรมทางน้ำ เพราะหาดนี้ไม่ลาดเอียง คลื่นลมสงบ รวมถึงเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่งดงาม นอกเหนือจากนี้บริเวณเกาะช้างยังมีอีกหลายอ่าวที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน อย่างหาดไก่แบ้ อ่าวคลองสน อ่าวสับปะรด และหาดทรายยาว

4. เขาใหญ่


เขาใหญ่

เขาใหญ่ หรือ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ แหล่งท่องเที่ยวสุดคลาสสิกที่สามารถไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เพราะไม่ว่าจะฤดูไหนความงดงามของเขาใหญ่ก็แปรเปลี่ยนไปตามสภาพอากาศ จะร้อน ฝน หรือหนาวก็สวยไปซะหมด ซึ่งสถานที่ที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเป็นธรรมชาติ เช่น น้ำตกเหวสุวัต, น้ำตกเหวนรก, น้ำตกผากล้วยไม้, หอดูสัตว์, จุดชมวิวผาเดียวดาย และอ่างเก็บน้ำสายศร เป็นต้น นอกจากนี้ บริเวณใกล้ ๆ เขาใหญ่ยังมีแหล่งท่องเที่ยวชิค ๆ เกิดขึ้นมากมาย ทั้ง Palio, Primo Piazza, Sheep Land, ตลาดน้ำเขาใหญ่, The Bloom by ทีวีพูล, The Pete Maze และเขาใหญ่ พาโนรามา ฟาร์ม ฯลฯ แถมที่นี่ยังมีที่พักเขาใหญ่เก๋ ๆ ให้เลือกสรรเพียบ อีกทั้งเมื่อขับรถเลยจากเขาใหญ่ไปประมาณ 70 กิโลเมตร คุณก็จะได้สูดโอโซนอันแสนบริสุทธิ์ ณ วังน้ำเขียว สวิตเซอร์แลนด์แดนอีสาน

5. ดอยอ่างขาง


ดอยอ่างขาง

เพราะอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี แวดล้อมด้วยพรรณไม้และดอกไม้นานาชนิด ทำให้ ดอยอ่างขาง กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวฮอตฮิตในปี 2557 ได้ไม่ยากเลย อีกทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวให้ได้ไปชื่นชมหลากหลาย เช่น สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง, สวนบอนไซ, จุดชมวิวกิ่วลม, พิพิธภัณฑ์โรงงานหลวงที่ 1 (ฝาง) โดยเฉพาะการไปสัมผัสกับวิถีชีวิชาวเขาเผ่าต่าง ๆ ณ หมู่บ้านขอบด้ง, หมู่บ้านนอแล และหมู่บ้านหลวง แต่ดูเหมือนว่าไฮไลท์ที่หลาย ๆ คนรอคอย คือ การไปเก็บสตรอว์เบอร์รีตามสวนต่าง ๆ ที่มีอยู่มากมาย

6. ภูกระดึง


ภูกระดึง

สักครั้งในชีวิตต้องพิชิต ภูกระดึง จังหวัดเลย เราเชื่อว่านี้คือหนึ่งในกิจกรรมเดินเขาประมาณ 5 กิโลเมตร ของใครหลาย ๆ คน เพราะเสมือนการพิสูจน์และท้าทายความสามารถของตัวเอง (เส้นทางขึ้นภูกระดึง ทางขึ้นค่อนข้างชัน แต่จะมีจุดแวะพักที่ “ซำ” หมายถึง บริเวณที่มีแหล่งน้ำใต้ดินผุดขึ้นมา แต่ละจุดมีเครื่องดื่มและอาหารบริการ) สถานที่แห่งนี้นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมมากแห่งหนึ่งของเมืองไทย เพราะมีสภาพธรรมชาติสมบูรณ์ประกอบด้วยระบบนิเวศและภูมิประเทศหลากหลาย ทั้งทุ่งหญ้า ป่าสนเขา ป่าดิบ น้ำตก และหน้าผาชมทิวทัศน์ แถมเมื่อได้ไปถึงบนยอดภูกระดึงแล้ว ยังจะได้สัมผัสกับความธรรมชาติ เช่น ผาหล่มสัก ลานหินกว้างและมีสนต้นใหญ่อยู่ใกล้กับชะง่อนหินที่ยื่นออกไปจากหน้าผา เป็นสถานที่ชมพระอาทิตย์ตกได้ชัดเจนที่สุด, ผานกแอ่น จุดชมพระอาทิตย์ขึ้น สามารถมองเห็นทิวทัศน์เบื้องล่างซึ่งเป็นท้องทุ่งและเทือกเขา และชมต้นเมเปิลที่ต่างพากันผลัดใบในป่าปิด เปลี่ยนเฉดสีจากเขียวกลายเป็นสีแดงท่ามกลางลมหนาว สวยงามน่าประทับใจ

วันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

เเนะนำตัวของ นางสาว เพชรรัตน์ ปลั่งเวช




เเนะนำตัว


นางสาวเพชรรัตน์ ปลั่งเวช 
เลขที่ 23 มัธยมศึกษาปีที่ 4

ความสามารถพิเศษ
เป็นคนพูดมาก ชอบเเกล้งเพื่อนในเวลาเรียน

เพื่อนสนิท
 นาย ชำนาญ มะกะระชัช
นางสาว สุภัทรา โสวัตร
นางสาว นารี สีทอง
นางสาว นันนภัท เกาะลอย
นาย ดำรงค์ คุง

ชอบกิน
ผัดกระเพรา ข้าวมันไก่

ชอบกินน้ำ
น้ำเขียว

ชอบสี
สีน้ำเงิน สีเขียว สีดำ สีส้ม

ชอบการ์ตนู
โดเรม่อน ไมค์