วันเสาร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2559

เกาะช้าง เกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของจังหวัดตราด และใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศรองจากเกาะภูเก็ตเพียงนิดเดียว

ด้วยระยะทางที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯมากนัก  เกาะช้าง จึงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวใกล้กรุงที่หลายคนนึกถึงอยู่เสมอ เพราะบนเกาะช้างพรั่งพร้อมด้วยสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ทั้งหาดทรายขาว น้ำทะเลใสสะอาด ที่กิน ที่พัก สมบูรณ์แบบ  
ไปแล้วสามารถเลือกพักได้หลายระดับราคาตั้งแต่ที่พักราคาหลักร้อย ไปจนถึงโรงแรมหรูระดับห้าดาว หรือจะเป็นโฮมสเตย์น่ารักๆ ก็มีให้พักด้วยเช่นกัน โดยเกาะช้างแบ่งโซนการท่องเที่ยวออกเป็น 2 ฝั่ง คือ เกาะช้างฝั่งตะวันตก และเกาะช้างฝั่งตะวันออก
รูปเกาะช้าง ตราด (10)
หาดทรายขาว แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังบนเกาะช้าง
เกาะช้างฝั่งตะวันตก เป็นโซนท่องเที่ยวที่คึกคักมากที่สุด มีชายฝั่งที่มีชายหาดให้เล่นน้ำเกือบเหนือจรดใต้ มีชายหาดขึ้นชื่อ คือ หาดทรายขาว หาดคลองพร้าว และหาดไก่แบ้ อีกทั้งยังมีกิจกรรมสนุกๆ มากมาย อาทิ ดำน้ำดูปะการังที่เกาะช้าง หรือเปลี่ยนบรรยากาศนั่งเรือออกไปตกหมึกตอนกลางคืนก็ก็น่าสนุกมากๆ

เครปเค้ก" เค้กยอดฮิต ไม่ยากอย่างที่คิดจ้าาา


เจอกันอีกแล้ว วันนี้มีโอกาสได้ทำขนมยอดฮิต ที่คนนิยมรับประทานกันมาก นั่นคือ "เครปเค้ก" หลังจากที่เจ้าของกระทู้ได้ไปลิ้มลองเครปเค้กจากร้านต่างๆ มา ก็เลยติดใจ อยากทำเป็นบ้าง เลยลองเปิดหาข้อมูลตามเวบไซต์ต่างๆ  เอ๊ะ! มันก็ไม่ยากอย่างที่คิดนะ ภารกิจจึงเริ่มขึ้น ในตอนแรกที่เริ่มทำก็ได้นำไปแจกญาติพี่น้องได้ชิมกัน ปรากฎว่า ไม่ผ่าน 55555  ก็เลยลองปรับเปลี่ยนวิธีการมาเรื่อยๆ จนมาถึง ณ ปัจจุบัน เรียกได้ว่าลงตัวที่สุดละ จึงกล้านำมาเปิดเผยต่อสาธารณะชนได้อย่างไม่อาย

เอาล่ะ เรามาเริ่มลงมือทำกันเลย เริ่มจากเตรียมวัตถุดิบกันเลยจ้า

ส่วนผสมและวิธีทำ เราจะบรรยายตามภาพเลยนะคะ


1. เตรียมส่วนผสมต่างๆ เพื่อทำแป้งสำหรับทอดเป็นแผ่นๆ  ได้แก่ 
- ไข่ไก่  8 ฟอง
- เนย 150 g  (นำไปตั้งไฟให้ละลาย)
- นมสดจืด 600 ml (นำไปอุ่นแล้วพักไว้ให้เย็น)
- แป้ังเค้ก 230 g (ไม่ต้องร่อน)
- น้ำตาลทราย 120 g
- กลิ่นวานิลา (ตามชอบ)

2. ตีไข่ในชามผสม แล้วใส่น้ำตาลทรายลงไป ผสมให้เข้ากัน
3. เมื่อไข่กับน้ำตาลผสมกันดีแล้ว ใส่แป้งลงผสมทีละน้อย จนหมด
4. คนจนแป้งไม่เป็นเม็ด
 
5. ค่อยๆ เทนมที่นำไปต้มแล้วทิ้งไว้ให้เย็นแล้ว ลงผสม คนๆ ให้เป็นเนื้อเดียวกัน 
6. สุดท้ายเทเนยละลายลงผสม ทีละน้อยจนส่วนผสมเข้ากันดี จากนั้นเติมกลิ่นวานิลลาลงไปผสมเป็นอันเสร็จ
7. กรองแป้งที่ผสมแล้ว เนื่องจากอาจมีเศษไข่ เศษแป้งที่ยังหลงเหลือ 
8. แป้งที่กรองแล้ว นำไปแช่ตู้เย็นทิ้งไว้ 1 - 2 ชั่วโมง หรือทิ้งไว้ค้างคืนก็ยิ่งทำให้แป้งนุ่มขึ้น
9. แป้งที่แช่ตู้เย็นไว้แล้ว จะมีลักษณะแยกตัว อย่างที่เห็น เมื่อนำออกมาแล้ว ต้องคนให้เนื้อแป้งผสมกันอีกครั้ง ถึงจะนำมาทอดได้
10. นำแป้งลงทอดใสกระทะเทปลอน  โดยขณะเทแป้งนั้นกระทะต้องไม่ร้อน หากกระทะร้อนจะไม่สามารถกลิ้งแป้งให้เป็นแผ่นได้ แป้งที่สุกแล้วสังเกตจะมีฟองอากาศพองขึ้นมา และขอบเริ่มแห้งให้ใช้ตะหลิวแซะขอบให้รอบ เสร็จแล้วคว่ำกระทะลงบนตะแกรงพักแป้ง แป้งก็จะหลุดออกมาเป็นแผ่นเอง 
*** ตัวอย่างแป้งที่เทลงในขณะที่กระทะยังร้อนอยู่  ****
11. ทอดจนหมดแล้วนำมาพักไว้ให้เย็น

ที่นี้มาดูส่วนของครีม เจ้าของกระทู้เลือกใช้วิปครีม Anchor กับ วิปครีม Act  

เนื่องจากวิปครีม Anchor นั้นเป็นวิปครีมที่มีความหอมมัน แต่ไม่มีรสชาด จึงนำวิปครีม Act มาผสมด้วย ในอัตรา 3:1  เนื่องด้วย วิปครีม Act นี้จะมีความหวานอยู่ในตัว แต่บางกรณีอาจใช้น้ำตาลไอซิ่งเพิ่มความหวานแทนก็ได้ ส่วนปริมาณวิปครีม แล้วแต่ว่าเราจะชอบครีมหนาหรือบาง

 
1. ตีวิปครีมให้พอตั้งยอดอ่
2. นำแป้งที่เย็นแล้วมาวางบนกระดาษรองเค้ก เสร็จแล้วปาดวิปครีมให้ทั่วแผ่น ทำแบบนี้สลับกันไปเรื่อยๆ จนหมดแป้ง 
*** เมื่อประกอบสำเร็จแล้วออกมาเป็นลักษณะนี้ค่ะ ****
นำไปแช่ตู้เย็นทิ้งไว้ เพื่อให้วิปครีมเซตตัว ประมาณ 2-3 ชั่วโมง แล้วจึงนำมาตัดแบ่ง
ก่อนรับประทาน ก็ราดซอสซะหน่อย เพื่อความอร่อยยิ่งขึ้น จะราดซอสช๊อคโกแลต หรือสตอเบอรี่ก็ไม่ว่ากันค่ะ 
เรียบร้อย  แนะนำวิธีการรับประทานนิดนึง  ขณะที่นำออกมาจากตู้เย็น ก่อนรับประทานควรทิ้งไว้ซัก 10-15 นาที  แป้งจะนุ่มมมละลายในปากเลยทีเดียวค่ะ  

7 คลิปท่าวอร์มอัพก่อนออกกำลังกาย ฟิตได้สบายร่าง อึดนานกว่าที่เคย


ออกกําลังกาย
ท่าวอร์มอัพก่อนออกกำลังกายง่าย ๆ ตาม 7 คลิป อยากออกกำลังกายได้สบาย ๆ ฟิตได้นานถึงใจ ไม่อบอุ่นร่างกายก็ถือว่าพลาดแรง

          เคยไหมคะที่ออกกำลังกาย ไปได้สักพัก เรากลับรู้สึกปวดเมื่อยร่างกาย หรือเจ็บบางส่วนของร่างกายจนไม่สามารถทนออกกำลังกายได้อีกต่อไป โดยเฉพาะกับมือใหม่ ถ้าไม่เจอกับความรู้สึกเจ็บระหว่างออกกำลังกาย ก็อาจพบกับความปวดเมื่อยหลังออกกำลังกายแทน ชนิดที่บางคนขอบายการออกกำลังกายในวันถัดไปกันง่าย ๆ เลยก็มี
          ดังนั้นหากอยากฟิตร่างกายให้เต็มที่ ท่าวอร์มอัพ ตามคลิปเหล่านี้จึงควรต้องทำก่อนที่จะออกกำลังกาย ไม่ว่าจะใช้วอร์มอัพก่อนวิ่ง วอร์มอัพก่อนเล่นเวท หรือวอร์มอัพก่อนเล่นกีฬาใด ๆ ท่าอบอุ่นร่างกายตาม 7 คลิปวิดีโอด้านล่างจะช่วยป้องกันอาการบาดเจ็บทั้งก่อนและหลังออกกำลังกายให้คุณได้อย่างเต็มที่ แถมเป็นท่าวอร์มอัพง่าย ๆ ที่ไม่ต้องอาศัยอุปกรณ์ใด ๆ สักชิ้นเลยจ้า 

ออกกําลังกาย

อ้อ ! และการวอร์มอัพไม่เพียงแต่ช่วยลดความเสี่ยงการบาดเจ็บของร่างกายเท่านั้นหรอกนะคะ แต่ยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต เรียกความตื่นตัวให้ระบบประสาททุกส่วน เดินเครื่องให้ร้อน และช่วยให้กล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ มีความยืดหยุ่น พร้อมที่จะออกกำลังกายได้อย่างไม่มีอาการตึงปวดมาเป็นอุปสรรค ฉะนั้นอย่ารอช้าค่ะ ชอบคลิปไหนก็จัดท่าวอร์มอัพตามคลิปนั้นกันเล้ย !



1. ท่าวอร์มอัพง่าย ๆ เตรียมกล้ามเนื้อให้ออกกำลังกายสบาย ๆ ใน 2 นาที



2. ท่าวอร์มอัพพื้นฐาน ทำตามได้ชิล ๆ 



                         3. ท่าวอร์มอัพสำหรับมือใหม่ออกกำลังกาย 3 นาทีรู้เรื่อง !



  4. ท่าเบสิกของการอบอุ่นร่างกาย เตรียมร่างให้พร้อมก่อนฟิต แอนด์ เฟิร์ม



       5. ท่าวอร์มอัพร่างกาย 5 นาที เวลาอบอุ่นร่างกายกำลังดีสำหรับมือใหม่



 6. ยืดเหยียดกล้ามเนื้อง่าย ๆ ใน 4 นาที 






อาหารลดความอ้วน กินแบบนี้ช่วยลดน้ำหนักได้ถึง 10 กิโลกรัม เชียวนะ !


อาหารลดความอ้วน

อาหารลดความอ้วน สูตรอาหารง่าย ๆ สำหรับคนอยากผอม ลองกินแบบนี้ดูสิ ช่วยลดน้ำหนักได้เยอะเลยนะจะบอกให้

          คุณสาว ๆ ที่กำลังไดเอตหรือลดความอ้วน ออกกำลังกายอย่างเดียวไม่ได้ช่วยทำให้น้ำหนักลดลงได้อย่างรวดเร็วนะจ๊ะ เพราะสิ่งสำคัญที่จะต้องทำควบคู่กันไปก็คือการควบคุมอาหารไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งเรื่องนี้คุณสาว ๆ อาจจะรู้กันอยู่แล้ว และก็เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงจะกำลังมองหาสูตรอาหารสำหรับลดความอ้วนกันอยู่แน่ ๆ ซึ่งวันนี้กระปุกดอทคอมก็มีสูตรอาหารจากคุณ 2063488 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอมมาฝากสาว ๆ ให้ลองทำตามดูกันค่ะ ซึ่งเธอคนนี้ก็เป็นผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่เคยอ้วนเอามาก ๆ และเคยเพิ่งยาลดความอ้วนจนเกือบจะทำให้ชีวิตพังมาแล้วด้วยซ้ำ แถมพอเลิกกินยาก็ทำให้น้ำหนักโยโย่พุ่งขึ้นไปอีก แต่ด้วยความที่อยากจะผอม เธอเลยมองหาวิธีการลดความอ้วนที่เหมาะกับเธอ นั่นก็คือการรับประทานอาหารสูตรสำหรับลดน้ำหนักที่เธอคิดค้นขึ้นเองโดยเฉพาะ ซึ่งก็ได้ผลอย่างมาก เพราะมันสามารถทำให้น้ำหนักของเธอลดลงไปได้ถึง 10 กิโลกรัมเลยทีเดียว แถมยังทำให้รูปร่างของเธอดูดีมากขึ้นอีกซะด้วย

          นั่นแน่ ! เห็นแบบนี้แล้วคุณสาว ๆ คงจะอยากรู้กันแล้วใช่ไหมล่ะคะว่าสูตรอาหารลดความอ้วนที่เธอคนนี้กินแล้วได้ผลทำให้น้ำหนักลดลงไปได้กว่า 10 กิโลกรัมนั้นจะเป็นอย่างไร ถ้าอยากรู้ อยากผอม... ก็ตามมาดูกันเลยจ้า


ย้อนอดีต
อาหารลดความอ้วน

    ขอย้อนก่อนนะคะ ตอนนี้ดิฉันนั้นทำงานแล้วคะ เมื่อก่อนจัดว่าผอมมาก กินเท่าไรก็ไม่อ้วน พอเรียนจบ เข้าสู่วัยทำงานน้ำหนักมันมาจากไหนเนี่ย เพิ่มเอาเพิ่มเอา จริง ๆ นะ คนที่เคยผอม จนหลงระเริงว่ากินเท่าไรก็ไม่อ้วน ระวังไว้เลยค่ะ มันจะเข้ามาสิงตัวคุณแบบไม่รู้ตัว อิอิ

          จนหันมากินยาลดความอ้วนหลายยี่ห้อ มาเจอยี่ห้อหนึ่ง มันสุดยอดมาก ๆๆๆๆ เน้นโฆษณา กระชากไขมัน กระชากจริง ๆ ค่ะ มันลดจริง ๆ ค่ะ แต่ทำเอาดิฉันเกือบโดนไล่ออกจากงาน เพราะทำให้บริษัทเกือบเสียลูกค้า เป็นเพราะเราเบลอ มึน ความรู้สึกตัวจะลอย ๆ  คิดช้า ที่สำคัญปากเหม็นมาก ๆ จนมีคนแซว แรก ๆ ดิฉันก็คิดว่า แหม ๆ มาหยอกกันปกติ นานไปมารู้ว่าเหม็นจริง เสียเซลฟ์ไปเลยช่วงหนึ่ง ก็เลิกกิน น้ำหนักก็กลับมาแบบเดิม ไวเหมือนสูบลม เยอะกว่าเดิมด้วยซ้ำ งามไส้ไหมล่ะคะ เสียเงิน เสียเวลา เสียสุขภาพ แล้วยังโยโย่ เอาน้ำหนักมาเพิ่มให้ฉันอีก อยากจะบ้าตาย !!!

          นี่เลยค่ะ หุ่นของดิฉันเมื่อประมาณ 2 เดือนก่อน รูปซ้ายจะเห็นว่า พุงโตมาก ยังกับคนท้องแม่ลูก 3 เคยมีคนมาทักบน BTS ด้วยค่ะ ประมาณลุกให้เรานั่ง แล้วเราเดินไปนั่ง เขาไม่ได้พูดว่าเราท้อง แต่เขาทำท่าทางเข้ามาพยุงกันให้เรานั่ง อารมณ์เหมือนระวังให้เรา ตอนนั้นไม่คิดอะไรมาก ถึงบ้านมานั่งคิด เลยคิดไปว่าเขาน่าจะคิดแบบนั้นแน่เลย แง ๆๆ แหมก็คนมันอ้วน ไม่มั่นใจเลย แถมปีกตรงใต้ท้องแขน มันเป็นปีกนางฟ้าที่สง่างาม จะบินได้อยู่แล้ว พอค่ะ จะไม่ทนอีกต่อไป ป.ล. ขออนุญาตไม่ลงรูปเห็นหน้านะคะ คืออายค่ะ รีวิวหุ่น ไม่เห็นจะเกี่ยวกับหน้าเนอะ คิคิ

 เข้าประเด็นเลยนะคะ

          จนมาพักหนึ่ง คนเริ่มนิยมทานอาหารคลีน เพื่อได้สุขภาพและหุ่นดีด้วย ดิฉันเห็นแล้วน่ากินมาก มีขายเป็นคอร์สด้วย มีบริการส่งถึงที่ จะให้เอาตังค์ไปลงคอร์สก็น่าจะผอมนะ (ผอมเพราะคอร์สแพง ไม่มีตังค์ไปกินอย่างอื่น เลยผอม อิอิ) และแล้วสวรรค์ก็มาโปรด เป็นสูตรที่แนะนำกันมาอีกที เหมาะกับสาวออฟฟิศ เงินเดือนธรรมดาแบบเรา ๆ ซึ่งดิฉันลองแล้ว มันได้ผลดีมากค่ะ มันคือที่สุดของที่สุด อลังการงานสร้าง เริดสุด ๆ เพราะน้ำหนักลดแล้ว สุขภาพดีมากขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ 

สูตร

          ดิฉันจะขออธิบายเป็นมื้อ ๆ นะคะ เช้า เที่ยง เย็น เพื่อทุกคนจะได้ไม่สับสน งง งวย

อาหารลดความอ้วน

มื้อเช้า

          มื้อนี้สำคัญสุด ๆ ต้องทาน ถ้าอยากสุขภาพดี แข็งแรง ต้องทานค่ะ จำไว้ว่าคอนเซ็ปต์ของดิฉันคือ "สวย เก่ง หุ่นดี ดูดี แบบมีสุขภาพ"

ส่วนผสม
อาหารลดความอ้วน

  1. อันดับแรกไปซื้อเลยค่ะ กีวี จากโลตัส บิ๊ก C ใกล้บ้าน กีวีนั้นมีวิตามินซีสูงมาก ๆ ถ้าคุณทานสองผล ก็จะได้รับปริมาณวิตามินซีที่เพียงพอแล้ว สำหรับที่ร่างกายต้องการต่อวัน นอกจากนี้ยังมีวิตามินอี ไฟเบอร์ เคยอ่านเจอเขาบอกว่าช่วยลดไขมันสะสมด้วยค่ะ

อาหารลดความอ้วน

2. แอปเปิลเขียว แก้วมังกร ส้มก็ได้ค่ะ ดิฉันไม่เน้นชนิดของผลไม้มาก เลือกตามใจชอบนะคะ แล้วแต่อารมณ์และตังค์ในกระเป๋า อิอิ แต่แอปเปิลเขียวก็จะดีหน่อย จากที่ศึกษามา เปลือกและเนื้อของแอปเปิลมีเส้นใยอาหารที่ชื่อว่า "เพคติน" ที่มีคุณสมบัติพองตัวได้มาก ช่วยเพิ่มกากในทางเดินอาหาร แต่สำหรับดิฉันคิดว่าได้หมดนะคะ เพราะผลไม้ส่วนใหญ่ก็มีวิตามินซี ไฟเบอร์เยอะคล้ายกัน เลือกทานตามสะดวก สับเปลี่ยนไป จะได้ไม่เบื่อ เพราะต้องทานทุกวัน

อาหารลดความอ้วน

 3. ข้าวโอ๊ตอบ ในซูเปอร์มาร์เกตมีหลายยี่ห้อให้เลือกเลยค่ะ ดิฉันก็ทานสลับไป แต่วันนี้ใช้ของ Mcgarrett เห็นว่าขนาดกำลังดี ทานพอหมดค่ะ ข้าวโอ๊ตเป็นธัญพืชที่ให้พลังงานสูงแต่ให้ไขมันที่ต่ำ มีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ คนลดน้ำหนักจะชอบ พองตัวได้ดีเมื่อผสมน้ำ กินแล้วอิ่มนานแต่ได้แคลอรีน้อย แถมมีไฟเบอร์สูง ถือว่ายังเป็นแป้งนะ แต่ดีกว่ากินข้าวปกติ แหม ๆๆ คนเราก็ต้องกินแป้งบ้างจะได้ย่อยเป็นน้ำตาล พาไปเลี้ยงเซลล์ยังไงล่ะคะ

อาหารลดความอ้วน

  4. Chia Seed เมล็ดเชีย หรือบางคนเรียกว่า เมล็ดเจี๋ย นั้นเอง ตัวนี้ดิฉันถือว่าสำคัญมากที่คนลดความอ้วนควรรู้จัก Chia Seed เป็นพืชแถบเม็กซิโก โบลิเวีย จัดเป็น Super Food สุดยอดอาหารของโลก เพราะมีสารอาหารเยอะมาก ๆๆ เช่น โอเมก้าสามที่มากกว่าแซลมอน 7-8 เท่า แคลเซียมที่มากกว่านม 5 เท่า มีโปรตีน จึงทำให้คนลดน้ำหนักไม่ขาดสารอาหาร แถมสุขภาพดีขึ้นด้วย ทั้งช่วยเรื่องความจำ อีกทั้งยังมีพระเอกคือ มูสิเลจเจล ที่ช่วยชะลอการย่อยแป้งเป็นน้ำตาล ทำให้ระดับน้ำตาลที่ได้รับนั้นน้อยลง คนลดน้ำหนักจะชอบ เราจะได้หุ่นดี แบบไม่ขาดสารอาหารหน้าโทรมเหมือนผีตายซาก

อาหารลดความอ้วน

 5. นมถั่วเหลืองแท้ ๆ นมถั่วเหลืองดิฉันเลือกของ OHAYO ค่ะ ดูน่าทานดี สูตรไม่มีน้ำตาลนะคะ คือดิฉันจะพยายามให้ร่างกายรับน้ำตาลจากการย่อยแป้งนิดหน่อย แต่ไม่ค่อยทานน้ำตาลที่ผสมในอาหาร พวกน้ำตาลทรายอะค่ะ ซึ่งน้ำเต้าหู้นั้นดี เพราะมีโปรตีนสูง เหมาะกับดิฉันมากค่ะ เพราะทานนมวัวแล้วท้องเสีย คนแถบเอเชียพอโตขึ้น น้ำย่อยที่ย่อยน้ำตาลแลคโตสจะลดลง ทำให้ท้องเสียค่ะ แนะนำให้หันมาทานน้ำเต้าหู้หรือนมถั่วเหลืองจะดีกว่า

วิธีทำอาหารเช้า

         ชื่อเมนู overnight oatmeal ทำเตรียมไว้คืนก่อนที่จะทานตอนเช้าค่ะ ตอนเช้าเร่งรีบ จะได้ทานเลยด้วยค่ะ

อาหารลดความอ้วน
1. ตัก Nathary Chia Seed 2 ช้อนครึ่งใส่ชามหรือโหลค่ะ ดิฉันไม่มีโหล เอาแบบตามสไตล์แล้วกันเนอะ  ว้าว ๆ เมล็ดเงางามมาก

อาหารลดความอ้วน
 2. ตัก Mcgarrett โอ๊ตอบใส่ลงไปเลยค่ะ 2 ช้อน หอมมาก ๆๆ

อาหารลดความอ้วน
3.  จากนั้นเทนมถั่วเหลือง OHAYO สูตรไม่มีน้ำตาลลงไปค่ะ เทจนท่วมนิด ๆ ค่ะ ฟินเวอร์

อาหารลดความอ้วน
4. จากนั้นพักทิ้งไว้ มาหั่นผลไม้

อาหารลดความอ้วน
5. จากนั้นนำข้าวโอ๊ตและเมล็ดเชียที่แช่นม กับผลไม้ไปแช่ตู้เย็นไว้พร้อมทานตอนเช้าค่ะ

อาหารลดความอ้วน
6. ตอนเช้าตื่นมาก็ทานได้เลย ขับรถไป ทานไป สบายใจตอนรถติด อิอิ เมนูนี้ทำง่ายมาก ๆ ทำให้ดิฉันได้กินอาหารเช้าทุกวัน ตอนนี้ร่างกายแข็งแรง สุขภาพดีขึ้นมาก ๆ

มื้อเที่ยง

          มื้อเที่ยงดิฉันจะกินปกติค่ะ เราต้องสุขภาพดีแบบไม่อดตาย เกิดมากินเพื่อดำรงชีวิต เย้ ๆๆ (ขอแค่เลือกกินให้เป็นแค่นั้นค่ะ) ซึ่งเทคนิคของดิฉันคือ

           1. ทานข้าวปกติ เน้นทานผัก ปลา เน้น ต้ม  นึ่ง (ถ้าไม่มีต้มหรือนึ่ง ก็ผัดได้ แต่ขอให้เน้นผักค่ะ)

อาหารลดความอ้วน
อาหารลดความอ้วน
มื้อนี้ดิชั้นทาน ผัดผัก ข้าวสวย และยำปลาทูค่ะ

 2. เทคนิคก็คือ ดิฉันจะผสมเมล็ดเชียกับน้ำเปล่าหนึ่งแก้ว ใช้ Chia Seed 2 ช้อนค่ะ รอพองตัวนิดหนึ่ง จากนั้นดื่มระหว่างทานข้าว วิธีนี้คนจะนิยมกันมาก ๆ หลักการคือ ให้กากใยมูซิเลจของเมล็ดเชีย ไปแทรกตัวระหว่างอาหาร กากใยนี้จะไปชะลอการย่อยแป้ง ที่จะเปลี่ยนเป็นน้ำตาล ทำให้ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ คนเป็นเบาหวานใช้วิธีนี้ก็จะดีค่ะ คนควบคุมน้ำหนักด้วย เข้าใจนะว่าคนไทยนิยมทานข้าว บะหมี่ มีแต่แป้งทั้งนั้น ใช้วิธีนี้เลยค่ะ เอาอยู่ !

           3. ดิฉันทานแบบนี้ทุกมื้อที่มีแป้งค่ะ ได้สุขภาพด้วยนะ บำรุงร่างกาย ดีเว่อร์ !

ระหว่างวัน

          เมื่อก่อนที่โต๊ะจะมีขนมเยอะมาก ๆ เด่วนี้ขอบาย… หันมาดื่มน้ำหมักผลไม้ค่ะ เมนู infused water เมนูนี้ได้สุขภาพ วิตามินจากผลไม้ที่แช่ในน้ำ แช่ตู้เย็นไว้ พร้อมดื่ม หากน้ำหมด ก็เติมใหม่ แต่ของดิฉันนั้นใส่เมล็ดเชียลงไปด้วย ดื่มจิบระหว่างวัน เริดมาก ! มีข้อดีคือ

           1. ผลไม้นั้นเน้นรสเปรี้ยวมีวิตามินซี ทำให้ร่างกายตื่นตัวดีเว่อร์ ๆ ถ้ามีมะนาวก็บีบไปฝาหนึ่ง ตื่นเลยค่ะ

           2. เมล็ดเชียนั้นอุ้มน้ำ ทำให้น้ำเคลื่อนผ่านทางเดินอาหารอย่างช้า ร่างกายค่อย ๆ ดูดซึมไปใช้ สดชื่นมากค่ะ ชดเชยน้ำให้ผิว ตอนบ่ายจะไม่ค่อยเพลีย

อาหารลดความอ้วน

มื้อเย็น

          มื้อเย็นดิฉันจะพยายามทานโยเกิร์ตผสมเมล็ดเชีย อยู่ท้อง สบายท้องมาก ๆ แถมตื่นมาตอนเช้านะ พระเจ้า !!  ถ่ายหมดท้องเลย ถ่ายแบบทีเดียวจบ โยเกิร์ตมีแบคทีเรียช่วยย่อย เมล็ดเชียมีไฟเบอร์สูง โยเกิร์ตก็ต้องเลือกสูตรน้ำตาลน้อยนะคะ

อาหารลดความอ้วน

ออกกำลังกายง่าย ๆ

          10 กิโลกรัมที่หายไป ต้องออกกำลังกายร่วมด้วยค่ะ สูตรออกกำลังกาย คือ

           1. วิ่งค่ะ จะวิ่งลู่ วิ่งเปรี้ยว วิ่งจ็อกกิ้งก็ได้ค่ะ เพื่อเบิร์นไขมันที่มันพอกตัวอยู่ให้ออกไป

           2. ซิทอัพค่ะ ดิฉันทำเป็นเซต เซตละ 10 ที วันหนึ่งประมาน 3-4 เซต เน้นสบาย ๆ ที่ดิฉันทำเพราะพุงมันโต เลยเอาไขมันออกไปซะหน่อย

อาหารลดความอ้วน
3. ยกดัมเบลค่ะ ยกแบบในรูป ทำเป็นเซต เซตละ 10 ทีค่ะ ทำประมานวันละ 5 เซต ทำเยอะ ๆ จะดีมาก ดิฉันทำตอนเย็นค่ะ ดูละครไปด้วยทำไปด้วย หากรู้สึกเบาก็เพิ่มน้ำหนักขึ้นเรื่อย ๆ ค่ะ

อาหารลดความอ้วน

เทคนิคออกกำลังกายของดิฉัน คือมโนคิดเอง ไม่รู้ถูกมั้ย 555

           1. วิ่งเพื่อเบิร์นไขมันและลดขา, ซิทอัพลดพุง, ยกดัมเบลลดแขน ที่ทำแบบนี้เพราะดิฉันจะใหญ่ช่วงพุง แขน ขา เฮ้อ มาครบเลย 55

           2. สิ่งสำคัญคือ 7 วันแรก ต้องทำทุกวัน แล้วจะติดเป็นนิสัยไปเองค่ะ

สรุปสูตร

           1. มื้อเช้า ทานเมนู overnight oatmeal (ข้าวโอ๊ต เมล็ดเชีย แช่นมถั่วเหลือง ใส่ผลไม้)

           2. มื้อเที่ยง อาหารปกติ เน้นผัก ปลา ต้ม นึ่ง ดื่มน้ำเปล่าผสมเมล็ดเชียระหว่างมื้ออาหาร

           3. ระหว่างวัน งดขนม แต่มาดื่ม infused water จิบเรื่อย ๆ ถ้าอยากหาอะไรกระแทกปาก ก็กินแอปเปิลเขียวซะ คิคิ

           4. มื้อเย็น ทานโยเกิร์ตผสมเมล็ดเชียหรือนมเปรี้ยว

           5. ออกกำลังกายบ้าง ทำเยอะก็ได้เยอะ

ของขวัญที่ดิฉันได้จากสิ่งที่ทำมา 2 เดือนเต็ม ๆ

           1. น้ำหนักดิฉันหายไปประมาน 10 กิโลกรัม

           2. รู้สึกไม่อึดอัดตัว สบายตัวขึ้น ที่สำคัญไม่ค่อยเหนื่อยง่าย

           3. สุขภาพดีขึ้นมากขึ้น เมื่อก่อนความดันสูง มีไขมันนิดหน่อย ตอนนี้ความดันลดปกติ ไขมันลดลง  ดีใจเว่อร์ ๆๆ

           4. ชีวิตดีขึ้นค่ะ มีความมั่นใจมากขึ้น ไม่กังวลเรื่องน้ำหนักมากเกินไป แค่เราเลือกทานอาหารที่ดี

           5. เสื้อผ้าหาซื้อง่ายขึ้น ไม่ต้องมานั่งกังวลเลือกชุดที่ปิดตรงโน้น บังตรงนี้

           6. ถ่ายรูปกับเพื่อน อยู่หน้าเฟรมได้สบายใจ ไม่ต้องแอบข้างหลัง ดึงตัวเพื่อนมาบังไขมัน

          ไอเดียของฉันคือ "สลายไขมันเก่าด้วยการออกกำลังกาย  ไม่สร้างไขมันหรือเพิ่มน้ำหนักใหม่ด้วยอาหาร" แค่นี้เองจริง ๆ ค่ะ ขจัดของเก่าทิ้ง เลือกรับแต่สิ่งดี ๆ เข้ามา เวลาผ่านไปเราก็ผอมได้ เย้ ๆๆๆๆ

          แค่นี้ก็เชื่อว่า ทุกคนก็จะหุ่นดี ลดน้ำหนักได้ค่ะ เพียงแค่เลือกทานอาหารเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องกินยาลดความอ้วนให้เสียสุขภาพหรอกค่ะ หุ่นดีที่ต้องมาพร้อมกับสุขภาพที่แข็งแรงด้วย สู้ ๆ นะคะทุกคน

อาหารลดความอ้วน

 โอ้โห... แค่เปลี่ยนวิธีรับประทานอาหารใหม่ก็สามารถทำให้น้ำหนักลดลงได้ขนาดนี้เชียวเหรอเนี่ย เห็นแบบนี้แล้วคุณสาว ๆ ที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาลดความอ้วนกันอยู่คงจะต้องลองเอาไปทำตามกันบ้างซะแล้วล่ะค่ะ สูตรง่าย ๆ แบบนี้ ไม่ยากเกินไปใช่ไหมล่ะคะสาว ๆ ^^




การทำสบู่ 


สบู่ เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับทำความสะอาดร่างกายที่ได้จากปฏิกิริยาของด่างกับไขมันจากพืชหรือสัตว์ ปัจจุบัน สบู่มีการใช้ส่วนผสมชนิดต่างๆเพื่อปรับปรุงคุณสมบัติของสบู่ให้มีลักษณะพิเศษ ตรงตามความต้องการใช้งานที่หลากหลายขึ้น

สบู่” จากคำข้างต้น หมายถึง ผลิตภัณฑ์ของสบู่ที่ทำให้เป็นก้อนหรือเป็นของเหลว พร้อมด้วยส่วนผสมต่างๆ เพื่อให้มีคุณสมบัติเหมาะสำหรับการใช้ทำความสะอาด ซึ่งก็คือผลิตภัณฑ์สบู่ที่เราใช้กันในทุกวันนี้ ส่วน “สบู่ (soap)” อีกคำที่พบในสมการเคมีจะหมายถึง สารตั้งต้นสำหรับการผลิตสบู่ นั่นก็คือ เกล็ดสบู่ (soap) ที่ได้จากปฏิกิริยาระหว่างด่างเข้มข้นกับไขมันพืชหรือสัตว์ ร่วมด้วยกับกลีเซอรีน (Glycerine)/กลีเซอรอล (Glycerol) ซึ่งสารทั้งสองเป็นสารตั้งต้นในการทำสบู่เหมือนกัน แต่จะให้ผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกัน ซึ่งจะเรียกว่า “เกล็ดสบู่”

ไขมันพืช/ไขมันสัตว์ + โซเดียมไฮดรอกไซด์/โพแทสเซียมไฮดรอกไซด์ = เกล็ดสบู่ (soap) + กลีเซอรอล/กลีเซอรีน + แอลกอฮอล์ + น้ำ

สบู่

การเตรียมเกล็ดสบู่

ชนิดของสบู่
1. สบู่ก้อนขุ่น
เป็นผลิตภัณฑ์สบู่ที่รู้จัก และใช้กันมานานจนถึงปัจจุบัน มีลักษณะเป็นก้อนแข็งสีขาวขุ่นหรือมีสีต่างๆ ตามสีของสารเติมแต่ง เช่น สีเขียว สีชมพู สีม่วง เป็นต้น สบู่ชนิดนี้ใช้สารตั้งต้น คือ เกล็ดสบู่ (soap) ที่ผลิตได้จากปฏิกิริยาข้างต้นเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิต ที่ให้คุณสมบัติเป็นก้อนแข็ง ขาวขุ่น ให้ฟองมาก
2. สบู่ก้อนใส
เป็นผลิตภัณฑ์สบู่ที่มีลักษณะก้อนใสหรือค่อนข้างใสตามสัดส่วนของกลีเซอรีนที่ผสม ก้อนสบู่จะมีลักษณะอ่อนกว่าสบู่ก้อนขุ่น และสามารถทำให้เกิดสีใสต่างๆตามสารให้สีที่เติมผสม สบู่ชนิดนี้จะให้ฟองค่อนข้างน้อยกว่าสบู่ก้อนขุ่น เนื่องจากมีส่วนผสมของกลีเซอรีนเป็นส่วนใหญ่ สารตั้งต้นที่ใช้อาจเป็นกลีเซอรีนเหลวหรือกลีเซอรีนก้อน (กลีเซอรีนเหลว+เอทิลแอลกอฮอล์) ร่วมด้วยกับสารเติมแต่งชนิดต่างๆ
3. สบู่เหลว
เป็นผลิตภัณฑ์สบู่ที่มีน้ำเป็นส่วนผสมทำให้เนื้อสบู่เหลว สีสีสันต่างๆตามสารเติมแต่ง สบู่ชนิดนี้ใช้สารตั้งต้นจากเกล็ดสบู่ (soap) ที่ได้จากปฏิกิริยาข้างต้นเหมือนชนิดสบู่ก้อนขุ่น แต่ต่างกันที่จะใช้ด่างเข้มข้นโพแทสเซียมไฮดรอกไซด์แทนโซเดียมไฮดรอกไซด์ เพราะจะให้เนื้อสบู่อ่อนตัวดีกว่า
ลักษณะของสบู่ที่ดี
1. มีความสามารถทำความสะอาดได้ดี
2. มีฟองในระดับที่เหมาะสม
3. มีความเป็นด่างน้อยในระดับที่ไม่เป็นอันตรายต่อผิวหรือทำลายชั้นไขมันของผิว
4. สบู่ก้อนไม่มีเนื้อเหลว แตกหักง่าย
5. ไม่มีกลิ่นหืน มีกลิ่นหอมน่าใช้ และมีคุณสมบัติเฉพาะในบางกรณี เช่น สบู่ฆ่าเชื้อ
สารเคมีที่ใช้ทำสบู่
1. ไขมัน/น้ำมัน เป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตสารตั้งต้นสบู่ ไขมันหรือน้ำมันที่ใช้อาจได้จากพืช เช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอก น้ำมันปาล์ม เป็นต้น ส่วนไขมันที่ได้จากสัตว์ เช่น ไขมันโค กระบือ แกะ แพะ เป็นต้น คุณภาพของน้ำมันที่ได้จากพืช และสัตว์จะมีผลต่อคุณภาพของสบู่ เกล็ดสบู่ (soap)ที่ได้จากน้ำมันพืชจะให้ลักษณะขาวเนียน และกลีเซอรีนจะค่อนข้างใสกว่าน้ำมันจากสัตว์ นอกจานั้น เกล็ดสบู่ (soap) ที่ได้จากน้ำมันจากพืชจะมีกลิ่นหืนน้อยกว่าน้ำมันจากสัตว์ อีกทั้งน้ำมันจากพืชยังเป็นวัตถุดิบที่หาง่าย และราคาถูกกว่า
2. ด่างเข้มข้น เป็นสารเคมีสำคัญที่ใช้ทำปฏิกิริยากับไขมันธรรมชาติ ด่างเข้มข้นที่นิยมใช้ คือ โซเดียมไฮดรอกไซด์ ซึ่งจะได้เนื้อสบู่สีขาวทึบ เนื้อก้อนแข็ง ให้ฟองมาก นิยมนำมาทำสบู่ก้อนทึบ และอีกชนิดหนึ่ง คือ โพแทสเซียมไฮดรอกไซด์ ซึ่งจะได้สบู่ในลักษณะเดียวกัน แต่เนื้อสบู่มีความอ่อนตัวได้ดีกว่า นิยมนำมาทำสบู่เหลว
3. สารเติมแต่ง เป็นสารเคมีสำหรับปรับปรุงคุณสมบัติของสบู่ เช่น สี น้ำหอม สมุนไพร สารป้องกันความชื้น สารลดความเป็นด่าง สารลดแรงตึงผิว สารทำให้ฟองคงตัว สารเพิ่มความแข็ง สารป้องกันการออกซิเดชัน สารบำรุงผิว สารฆ่าเชื้อ เป็นต้น เป็นสารเติมแต่งที่นิยมผสมในสบู่เพื่อให้มีคุณสมบัติเหมาะแก่การใช้ประโยชน์ในแต่ละอย่าง
วิธีการทำสบู่
การทำสบู่ในระดับอุตสาหกรรม และระดับครัวเรือน ในกรรมวิธีหลักๆจะไม่แตกต่างกันมาก แต่ในทางอุตสาหกรรมจะมีกระบวนการที่ละเอียด และซับซ้อนกว่า โดยในภาคอุตสาหกรรมอาจเตรียมสบู่สารตั้งต้นเองหรือสั่งซื้อจากอีกแหล่งที่ทำหน้าที่รับผลิต ทั้งที่เป็นเกล็ดสบู่ (soap) เพื่อผลิตสบู่ก้อนขุ่น หรือสบู่เหลว และกลีเซอรีน เพื่อผลิตสบู่ก้อนใส
1. การผลิตสบู่ในภาคอุตสาหกรรม
สำหรับภาคครัวเรือนสามารถผลิตได้ทั้งสบู่ก้อนขุ่น สบู่ก้อนใส และสบู่เหลว โดยนิยมสั่งซื้อเกล็ดสบู่ (soap) และกลีเซอรีน จากแหล่งจำหน่ายโดยไม่ต้องเตรียมเอง
ขั้นตอนการผลิตสบู่ภาคอุตสาหกรรม
– การฟอกสีน้ำมันวัตถุดิบเพื่อให้น้ำมันมีสีใส และไม่มีกลิ่นหืน
– การต้มสบู่ เพื่อให้ได้เกล็ดสบู่ และกลีเซอรีน ด้วยการเติมด่างโซเดียมไฮดรอกไซด์หรือโพแทสเซียมไฮดรอกไซด์
– ขั้นตอนการแยก โดยการแยกเกล็ดสบู่ และกลีเซอรีนออกจากกัน
– ขั้นตอนการฟิต เป็นการนำเอาเกล็ดสบู่เข้าหม้อฟิตเพื่อกำจัดเกลือที่ตกค้างในเกล็ดสบู่
– การระเหยน้ำ ด้วยการเป่าแห้งเกล็ดสบู่เหลวเพื่อกำจัดน้ำที่ผสมอยู่ และเพื่อให้เกล็ดสบู่แห้งจับตัวเป็นก้อน เรียกว่า สบู่ดิบ
– นำสบู่ดิบมาผสมกับส่วนผสมต่างๆ ภายใต้ความร้อนจนสารทั้งหมดละลายรวมตัวกัน และผ่านเข้าเครื่องอัดความหนาแน่นเพื่อให้สบู่เป็นก้อนที่คงตัว และสม่ำเสมอ
– เมื่อสบู่ที่ออกจากเครื่องอัดความหนาแน่นแล้ว จะเข้าสู่ขั้นตอนการรีดให้เป็นแท่งยาว และตัดด้วยเครื่อง
– ก้อนสบู่ที่ตัดเป็นก้อนจะเข้าสู่ขั้นตอนการปั้มบนแม่พิมพ์ และตีตรา เข้าสู่ขั้นตอนการบรรจุในขั้นสุดท้าย
2. การผลิตสบู่สมุนไพรภาคครัวเรือน
2.1 สารตั้งต้น
การทำสบู่ในภาคครัวเรือนนิยมผลิตสบู่ก้อนขุ่น สบู่ก้อนใส และสบู่เหลว ซึ่งจะใช้สารตั้งต้นที่แตกต่างกัน โดยสามารถสั่งชื้อได้ตามอินเตอร์เน็ตหรือร้านขายส่งสารเคมีทั่วไป
– สบู่ก้อนขุ่น ใช้สารตั้งต้น คือ เกล็ดสบู่ (soap) ที่เกิดจากการใช้ด่างโซเดียมไฮดรอกไซด์
– สบู่ก้อนใส ใช้สารตั้งต้น คือ กลีเซอรีนก้อน
– สบู่เหลว ใช้สารตั้งต้น คือ เกล็ดสบู่ (soap) ที่เกิดจากการใช้ด่างโพแทสเซียมไฮดรอกไซด์
วิธีการเตรียมสารตั้งต้น
วัสดุ และสารเคมี:
– น้ำ 1 ลิตร
– โซเดียมไฮดรอกไซด์ 100 กรัม
– น้ำมันจากพืช เช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอก น้ำมันปาล์ม 3 ลิตร
วิธีการ:
– ละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ในหม้อที่ต้มน้ำ คนให้ละลายจนหมด และตั้งทิ้งไว้ให้อุ่น
– เทน้ำมันพืชลงในหม้อ กวนให้เข้ากัน และเทใส่แม่พิมพ์หรือภาชนะอื่น
– รินน้ำ และสารละลายใสที่เป็นกลีเซอรีนส่วนบนออก
– สบู่จะนอนก้นเป็นตะกอนขาวขุ่น ซึ่งต้องตั้งทิ้งไว้ให้เย็น จนเกล็ดสบู่ (soap) จับตัวเป็นก้อน สำหรับการทำสบู่ก้อนขุ่น
2.2 สมุนไพร
สมุนไพรที่ใช้เป็นส่วนผสมทำสบู่มีมากมายหลายชนิด ซึ่งอาจประยุกต์ใช้สมุนไพรชนิดอื่นนอกเหนือจากที่ยกตัวอย่าง
– มะขาม มะนาว มะกรูดให้วิตามินซี และกรด ช่วยขัดเซลล์ผิว และป้องกันเชื้อจุลินทรีย์
– เปลือกมังคุดให้วิตามินดี ลดรอยด่างดำ
– มะละกอ ให้วิตามินเอ ช่วยบำรุงผิวให้ขาว
– ว่านหางจระเข้ ให้วิตามินอีช่วยลดรอยจุดด่างดำ
– ขมิ้น ดาวเรือง ช่วยบำรุงผิว
การเตรียมสมุนไพร สามารถทำได้โดย
– การทำเป็นผง ด้วยการตากแห้ง และนำมาบดให้เป็นผงละเอียด และนำตากให้แห้งอีกครั้ง
– การสกัดเป็นสารละลาย ด้วยการบดสมุนไพรให้ละเอียด และนำมาต้มสกัดหรือนำมาแช่สกัดด้วยแอลกอฮอล์ผสมกับน้ำ
สบู่สมุนไพรควรเติมผงสมุนไพรประมาณร้อยละ 1-5 ของน้ำหนักสบู่ และสมุนไพรที่ได้จากการต้มสกัด ควรเติมประมาณร้อยละ 5-10 ของน้ำหนักสบู่
2.3 สารเติมแต่ง
– น้ำหอม เป็นสารเติมแต่งที่นิยมเติมในการทำสบู่ สามารถใช้ได้ทั้งน้ำหอมทั่วไปหรือน้ำหอมสำหรับสบู่
– ผงสี สารลดความกระด้าง สารรักษาความชื้น สารป้องกันการหืน ซึ่งสารเหล่านี้อาจไม่ใช้ก็ได้หากไม่สะดวกที่จะหาซื้อ
2.4 ขั้นตอนการทำสบู่
– นำเกล็ดเกล็ดสบู่ใส่หม้อภาชนะ ตั้งไฟอ่อนๆให้ละลายจนหมด
– เติมสมุนไพร หากเป็นผงประมาณไม่เกิน 50 กรัม หากเป็นน้ำสกัดไม่เกิน 100 ซีซี
– เติมสารเติมแต่ง เช่น น้ำหอม ผงสี และอื่นตามที่หาซื้อได้ พร้อมคนให้ละลายเข้ากัน
– เทสารละลายสบู่ในแม่พิมพ์ และรอจนแห้งตัวก็จะได้สบู่สำหรับใช้งาน

ขั้นตอนการสร้างการ์ตูนแอนิเมชั่น แบบง่ายๆ

                Flash   เป็นโปรแกรมที่นิยมนำไปสร้างสรรค์ผลงานในด้าน Multimedia เช่น เว็บไซต์ เกม การนำเสนอผลงานเดิมที่โปรแกรม Flash ไม่ได้เป็นโปรแกรมสำหรับทำการ์ตูนโดยเฉพาะ   แต่เราสามารถนำมาประยุกต์สร้างการ์ตูน 2 มิติ ได้ เพราะโปรแกรมมีคุณสมบัติและเครื่องมือมราอำนวยความสะดวกในการสร้างการ์ตูนอย่างครบครัน   อีกทั้งยังสามารถวาดภาพได้อารมณ์การ์ตูนมากๆ ด้วย จึงทำให้  Flash เป็นอีกโปรแกรมหนึ่งที่นักเรียนสร้างการ์ตูนนิยมนำมาใช้อย่างแพร่หลายทั้งในและต่างประเทศ   จนเกิดเป็นการ์ตูนที่โด่งดังหลายเรื่อง เช่น Pucca, Boomba, Ninja เป็นต้น ในประเทศไทยเองก็มีผลงานที่สร้างจาก Flash เหมือนกน เช่น การ์ตูนเรื่องสู้เพื่อฝัน ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 การ์ตูนบุญโต หมูเพื่อซี้  และการ์ตูนไมเข้ (มิวสิควีดิโอประกอบรายการธรรมะ) ออกอากาศทางชื่อ DMC และ Magcartoon ที่เผยแพร่การ์ตูนเรื่องสั้นทางอินเทอร์เน็ต
          หัวใจของการ์ตูนแอนิเมชั่น   นอกจากการสร้างตัวละครให้น่าสนใจ และฉากที่สมจริงแล้ว   การทำภาพนิ่งที่เราเตียมไว้ให้เป็นภาพเคลื่อนไหวที่คนดูเชื่อว่ามันมีชีวิตจริงๆ ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ยังไงก็ขาดไม่ได้   กลวิธีมีมากมาย การได้ดูวิธีสร้างการ์ตูนของคนอื่นจะทำให้เรามีเทคนิคใหม่ๆ เพิ่มขึ้นเอง   การดูไฟล์ของคนอื่น ก็เหมือนได้แอบเข้าไปนั่งอยู่ในห้องทำงานของเขาในขณะที่เขากำลังทำงานอยู่นั่นเอง มะ…มาดูนอกห้องกันก่อน ไว้สุดท้ายค่อย download ไปดูภายในห้องกันเนอะ

1 เดี๋ยวชายคนนี้จะเคลื่อนที่ไหวให้เราดูกัน   แต่ตอนนี้เขายังไม่พร้อมที่จะนำมาทำแอนิเมชั่น ก่อนอื่นเราจะต้องแยกชิ้นส่วนของตัวละครกันก่อน
2
ในภาพด้านขวามือ   เป็นการแยกแบบพอเพียง เอาแค่พอใช้ได้ในการเคลื่อนไหวครั้งนี้   ถ้าเราต้องการจะให้ส่วนของข้อมือหรือแขน   กางหรือบิดในท่าอื่น   เราต้องแยก แขนท่อนบน แขนท่อนล่าง และข้อมือด้วยชิ้นส่วนทั้งหมดที่แยกออกมานี้   ให้เป็น   symbol ประเภท graphic หรือ movie clip ให้ registration point อยู่ตรงตำแหน่งที่เราจะใช้เป็นจุดหมุน และควรจะวางไว้คนละเลเยอร์ เพื่อสะดวกในการทำ animation เช่น แขนขวา เราต้องการจะให้เคลื่อนที่ขึ้นในท่ายกแขนขึ้นดูนาฬิกา registration point ควรจะอยู่ที่หัวไหล่ เป็นต้น
3
ส่วนหัวที่เป็น movie clip ชื่อ MHead movie clip ไว้ 2 ตัว คือ MBlink (ตากะพริบ) และ MMouth (ปากบ่นงึมงำ)
4
เราจะให้ชายคนนี้เป็นตัวละครที่รอใครสักคนมาเป็นเวลานานแล้ว   ดูนาฬิการอบแล้วรอบเล่า ใครคนนั้นก็ยังไม่มา อ๊ะ อ๊า ง่ายล่ะสิ   ถ้าทำง่ายๆ แต่ดูแล้วได้อารมณ์ว่ารอนานจริงๆ หงุดหงิดแล้วนะ ก็เรียกว่าสำเร็จล่ะ
5
เริ่มจากทำหัวก้มดูนาฬิกา และเงยขึ้น ก้มลงใหม่ แล้วเงยอีกครั้ง โดย
  • 1.   สร้าง keyframe (กด f6) ที่ frame 20 และ 28
  • 2.   ที่ frame 28 หมุนหัวให้ก้มลงตำแหน่งเหมือนดูนาฬิกา
  • 3.   คลิกขวาที่ frame ที่อยู่ระหว่าง frame 20 และ 28 เลือก Create Motion Tween
  • 4.   สร้าง keyframe ที่ frame 36 และ 43
  • 5.   ที่ frame 36 หมุนหัวให้เงยขึ้น frame 43 หมุนให้ก้มให้ก้มลงดูนาฬิกา
  • 6.   คลิกขวาที่ frame ที่อยู่ระหว่าง frame 36 และ 43 เลือก Create Motion Tween
6
ต่อด้วยการทำแขนยกนาฬิกาขึ้นดู เอาลง ยกขึ้นอีกครั้ง แล้วเอาลง โดย
1.   สร้าง keyframe (กด f6) ที่ frame 15 และ 24
2.   ที่ frame 24 หมุนแขนขึ้นในตำแหน่งที่รับกับส่วนหัวให้เหมือนกับยกแขนขึ้นดูนาฬิกา
3.   คลิกขวาที่ frame ที่อยู่ระหว่าง frame 15 และ 24 เลือก Create Motion Tween
4.   สร้าง keyframe ที่ frame 36 และ 43
5.   ที่ frame 36 หมุนแขนขึ้น frame 43 หมุนแขนลง
6.   คลิกขวาที่ frame ที่อยู่ระหว่าง frame 36 และ 43 เลือก Create Motion Tween
หากเราต้องการสร้าง keyframe ขึ้นมาใหม่โดยต้องการให้ภาพภายใน keyframe นั้น เหมือนกับ keyframe ก่อนหน้านี้ที่เคยมีมาแล้ว เราสามารถใช้วิธี Copy Frame โดยการคลิกขวาที่ keyframe ที่เป็นแม่แบบ เลือก Copy Frame (Ctrl+Alt+C) จากนั้น คลิกขวาที่ frame ที่ต้องการให้เหมือนแม่แบบ เลือก Paste Frame (Ctrl+Alt+V)
แค่หมุนขึ้นลง   หมุนแขนขึ้นลง   เราก็ได้ตัวละครชายขี้หงุดหงิด รอใครนานไม่ได้มาแล้ว จากนี้เราจะนำไปปรพกอบกับตัวละครอื่นในฉาก   อาจจะเป็นฉากผู้หญิงอยู่ในห้องแต่งตัว   กำลังแต่งหน้าอยู่หน้ากระจก ตัดภาพไปที่นาฬิกาแขวนผนังในห้องเธอ   บอกเวลาว่าเลยเวลานัดมานานแล้ว   ตัดภาพมาที่ชายคนนี้อีกครั้งจากยืนรอเป็นนั่งรอ… แล้วแต่จะผูกให้เป็นเรื่องราวกันต่อไปตามจินตนาการของแต่ละคนจ้า จุดประกายไว้เพียงเท่านี้ก่อน